หนังสือ "เรื่องรักของบางเรา"

[Mistressvag]

  เป็นเรื่องที่น่าสนใจเรื่องนึง จึงอยากแบ่งปันค่ะ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เรื่องรักของบางเรา
สำรวจเรื่องเพศในสังคมไทย
ไม่ว่าเพศไหนๆ มนุษย์ก็สามารถเป็นมนุษย์ได้ เข้าใจโลกได้ และนิพพานได้ คุณเชื่ออย่างนั้นไหม
โดย  โตมร  ศุขศรีชา
หน้า  32-53
"Sadism & Masochism ในสวรรค์ที่เจ็บแล้วสุข"
          ฉันใช้ชีวิต 13 ปีของฉันอยู่ในนรกส่วนตัว นรกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและขยะแขยงตัวเอง นรกที่มีสาเหตุมาจากความเข้าใจผิดทั้งของฉันและของสังคมที่มีต่อวิถีชีวิตแบบซาดิสม์และมาโซดิสม์ หลังจากล้างความคิดเกี่ยวกับความเชื่องมงายเรื่องซาดิสม์และมาโซดิสม์ออกไป บัดนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันไม่ได้ตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบผิดปกติ รุนแรงและทำลายล้าง แต่นี่คือแบบของความต้องการทางเพศของฉัน และฉันสามารถมีความสัมพันธ์ที่ฉันต้องการได้อย่างปลอดภัย มีสติ และได้ตกลงกันไว้ก่อน ซาดิสม์และมาโซดิสม์นั้นเป็นวิธีที่แสดงถึงความรัก ความผูกพัน และความไว้วางใจระหว่างฉันกับคนรัก
          ฉันปราถนาให้สังคมเข้าใจคนที่ต้องการใช้ชีวิตแบบนี้มากขึ้น เราเพียงแค่แตกต่างออกไป แต่เราไม่ได้ป่วย ไม่ได้บ้า และไม่ได้ต้องการให้รักษา ได้โปรดเรียนรู้ถึง "ความจริง" เกี่ยวกับซาดิสม์และมาโซดิสม์ ไม่ใช่ "ความเชื่อที่งมงาย"

[zntai]

ขอบคุณคับพี่แว๊ก

[Mistressvag]

ผมกำลังอยู่ใน "สวรรค์" กับต้น
เขาเอนหลังอยู่ข้างๆ ผม สายตาจับอยู่บนเวทีใน "สวรรค์"
เมื่อผมถามเขาว่า เคยเจอแขกที่ชอบให้ทำอะไรรุนแรงหรือเปล่า ใบหน้าที่ซื่อและอ่อนโยนของเขาดูเหมือนจะมีวี่แววของความตกใจฉายให้เห็นแวบหนึ่ง
"พี่ชอบรุนแรงเหรอครับ" เขาถามกลับ
"เปล่าหรอก" ผมรีบตอบ "แต่แค่สงสัยน่ะ ว่าถ้ามีใครที่เป็นซาดิสด์ออฟต้นออกมา ต้นจะทำยังไง"
"ผมก็สู้สิพี่" เขาหัวเราะ "แรงเรามีจะเก็บไว้ทำไม"
"ไม่ยอมเขา?" ผมถาม
"ยอมทำไมล่ะครับ" เขาย้อน
"แล้วไม่กลัวเลยเหรอ"
เขาเงียบไปชั่วครู่เหมือนคิดอะไรอยู่ ก่อนหันมามองหน้าผมพร้อมกับพูดยิ้มๆ ว่า "ก็กลัวอยู่เหมือนกันพี่ แต่ทำยังไงได้ คนทำอาชีพอย่างผมมันก็ต้องเสี่ยงอยู๋ดี หรือพี่ว่าไง"
จำได้ว่าผมตอบอะไรเขาไม่ได้ แต่ต้นทำให้ผมนึกถึงโอ เพราะคำตอบที่ผมได้รับจากโอนั้นต่างไปจากต้นอย่างสิ้นเชิง
ทั้งต้นและโอต่างก็เป็น "เด็กชาย" บาร์คนละแห่ง แต่ล้วนเคย "โชว์" บนเวทีมาแล้วทั้งคู่
"ถ้าแขกอยากให้ผมทำอะไรผมก็ทำพี่" โอว่า "ผมอยากให้แขกมีความสุขที่สุดเวลามากับผม"
"ถ้าเขางัดแส้ขึ้นมาเฆี่ยนเอาล่ะ" ผมถาม
"ก็คงต้องยอม" เขาตอบแล้วหัวเราะ น่าแปลกที่ผมจับวี่แววขมขื่นในน้ำเสียงของไม่ได้เลย ไม่เหมือนต้น
"ที่จริงก็มีเหมือนกันนะ" โอเล่าต่อ "เคยมีคนมาออฟไปแต่เขาไม่ได้เฆี่ยนโอนะ เขาให้โอถอดเข็มขัดเฆี่ยนเขา"
"แล้วทำมั้ย"
"ทำสิพี่ ไม่งั้นก็ไม่ได้ตังค์" เขาหัวเราะอีกแล้ว "แต่ก็ต้องทำเบาๆ ไม่กล้าทำแรง เกิดเขาเป็นอะไรขึ้นมา โอก็ซวยอีก"
"แล้วเขามีความสุขเหรอ ถูกเฆี่ยนน่ะ" ผมกลั้นใจถาม กลัวเขาสงสัยว่าทำไมแขกแปลกหน้าคนนี้จึงเซ้าซี้ถามในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
"ก็ดูเขามีความสุขดีนะพี่ ไม่รู้เหมือนกันสิพี่ อย่างพี่อย่างโออาจจะไม่รู้ก็ได้ ว่าทำไมเขาถึงมีความสุข ก็เราไม่ได้เป็นอย่างเขานี่"
เขาหัวเราะเต็มเสียงเป็นครั้งที่สามเหมือนขบขันเสียเต็มประดา
แต่ผมไม่ขัน ... บางทีอาจเพราะผมเป็นคนแปลกหน้า
และบางที ... โออาจจะพูดถูก
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

[timruchx]

ไม่รู้จะแสดงความเห็นอย่างไรดี
เพราะในบทความชัดเจนอยู่แล้ว
ขอบคุณครับ

[Mistressvag]

ถ้าที่นี่เป็นสวรรค์
ผมก็เป็นได้แค่คนแปลกหน้าในสวรรค์เท่านั้น- ผมรู้สึกอย่างนั้น
เด็กหนุ่มร่ายรำไปมาบนเวที กำเทียนที่จุดแล้วไว้ในมือกำใหญ่
เทียนลุกสุกสว่างอยู่ในความมืด วูบไหวของเหลวแสงต้องใบหน้าเป็นเงาดำส่ายไหว เด็กหนุ่มคนหนึ่งขบกรามขณะร่ายรำแล้วปล่อยให้น้ำตาเทียนหยดตกลงต้องร่างที่ชโลมน้ำมันเป็นเงามันปลาบ
น้ำตาเทียนหยดแล้วหยดเล่าไหลย้อยเป็นทางช้าๆ ราวแท่งเทียนกำลังร่ำไห้ ก่อนความเย็นจากแอร์จะกล่อมน้ำตาเทียนให้แข็งตัวจับอยู่บนร่างของเด็กหนุ่มจากความแสบร้อนในหยดแรก น้ำตาเทียนได้แข็งตัวป้องบรรเทาผิวเนื้อจากความร้อน ช่วยให้เด็กหนุ่มร่ายระบำแสงเทียนต่อไปได้จนถึงที่สุด
บางทีระบำนี้อาจละม้ายชีวิตของพวกเรา คือแสบและเศร้า- ผมคิดอย่างนั้นตามประสาคนแปลกหน้า
 
ถ้าใครเข้าใจว่าเด็กหนุ่มบนเวทีเหล่านี้เป็นซาดิสต์หรือมาโซคิสต์ นั่นก็ผิดแล้ว
ยิ่งถ้าใครคิดว่าคนดูส่วนใหญ๋ในบาร์ชอบเสพความเจ็บปวด- ก็ยิ่งผิดใหญ่
ผู้คนเพียงใช้ความเจ็บปวดที่เห็นจากภาพมาเป็นเพียงเครื่องกระตุ้นและเร้าอารมณ์ของตนให้บรรเจิด และพรักพร้อมจะออกไปปฏิบัติการกับเด็กๆ เหล่านั้น ในค่ำคืนอันอารมณ์ปรารถนาพลุ่งพล่านด้วย "วิธีการ" ธรรมดาๆ - เท่านั้น
พวกเขาล้วนไม่ใช่ซาดิสต์หรือมาโซคิสต์
และแท้ที่จริง ความเข้าใจของพวกเราที่มีต่อพวกมัน- ไอ้บ้าซาดิสต์ ไอ้วิปริตวิตถาร ไอ้พวกชอบใช้ความรุนแรง- นั้น
ก็ล้วนเป็นความเข้าใจที่ "ผิด" อย่างสิ้นเชิง
 
การต่อสู้ในเรื่องเพศเริ่มขึ้นเนิ่นนานมาแล้ว
เราทุกคนล้วนต้องเรียนรู้ถึงวิธีร่วมเพศที่ถูกต้อง ดีงาม ศักดิ์สิทธิ์ สูงส่ง
เรารู้- แม้แต่เด็กๆ ที่ไม่เดียงสาก็รู้ ว่าพฤติกรรมทางเพศแบบไหนไม่พึงปฏิบัติ
เรามีวิธีกล่อมเกลาทางสังคมหลากแบบ เพื่อตะล่อมให้ "คนใหม่" ที่เข้ามาในสังคม- คือ เด็กๆ - ต้องปฏิบัติตามพฤติกรรมที่ถูกต้อง ดีงาม ศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งเหล่านั้น

[zenzenzen]

ขอบคุณครับ

[Mistressvag]

นักมนุษย์วิทยาที่ทำงานเกี่ยวกับชุมชนเกย์ S/M พูดถึงเซ็กซ์ไว้ว่า โดยความเข้าใจของคนทั่วไป
 
เซ็กส์ที่ดีนั้น ต้องมีคุณลักษณะดังนี้ คือ Good,Normal,Nutural และ Blessed ได้แก่ เซ็กส์ระหว่างเพศตรงข้าม,เซ็กส์ที่ต้องแต่งงาน,เซ็กส์ที่รักเดียวใจเดียว,เซ็กส์ที่มีขึ้นเพื่อให้กำเนิดลูกหลาน,เซ็กส์ที่ไม่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง,เซ็กส์ที่ทำเป็นคู่,เซ็กส์ที่เป็นความสัมพันธ์,เซ็กส์ในรุ่นราวคราวเดียวกัน,มีเซ็กส์ในที่ส่วนตัว,ไม่มีการใช้ภาพโป๊เปลือยกระตุ้นอารมณ์,ใช้ร่างกายอย่างเดียว ไม่ใช้อุปกรณ์เครื่องเล่น และที่สำคัญเป็นเซ็กส์แบบธรรมดาปกติ
 
ขณะที่เซ็กซ์ที่เลว จะมีลักษณะดังนี้ คือ Bad,Abnormal,Unnatural และ Damned ได้แก่ เซ็กส์ระหว่างเพศเดียวกัน,เซ็กส์นอกสมรส,เซ็กส์หลายใจ,เซ็กส์ที่คุมกำเนิด,เซ็กส์เพื่อการค้า,เซ็กส์ที่ทำคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม๑เซ็กส์ที่ทำกันชั่วคราว,เซ็กส์ข้ามรุ่น,เซ็กส์ในที่สาธารณะ,เซ็กส์ที่ต้องใช้ภาพโป๊เปลือยกระตุ้นอารมณ์,เซ็กส์ที่ใช้อุปกรณ์เครื่องมาช่วย และสุดท้ายคือ S/M
 
เราจะเห็นได้ว่า S/M นั้น ถูกจัดอยู่ในจำพวกของเซ็กซ์ที่เกือบเลวที่สุด
ในภาพรวมของเซ็กซ์ S/M จึงเป็นได้แค่พฤติกรรมชายขอบ เป็นพฤติกรรมที่เลว ไม่ควรส่งเสริม และไม่ควรมีใครต้องทนทุกข์ทรมานกับมัน
ทฤษฎีเกี่ยวกับเซ็กซ์ทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า S/M เป็นพฤติกรรมทางเพศที่น่าขยะแขยงเสียจนไม่มีใครอยากจะทำพฤติกรรมนี้โดยความตั้งใจของตัวเอง
 
แต่ S/M เป็นความสัมพันธ์ที่เลวร้ายขนาดนั้นจริงๆ หรือ- ผมยังสงสัยอยู่

[timruchx]

ููู^^^
โห บรรยายซะ เซ็กส์ที่ดีกลายเป็นสิ่งที่จืดชืดไร้สีสรรไปเลย
งั้นขอชอบเซ็กส์ที่เลวดีกว่า ไม่น่าเบื่อ
พอๆกับมุกขอตกนรกดีกว่าขึ้นสวรรค์
เพราะบนนั้นเหงา (คนส่วนใหญ่ตกนรกกัน 555)

[S]

ผมเน้นเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผม
แต่อาจจะ้เป็นสิ่งที่เลวสำหรับคนส่วนมาก
แล้วจะไปแคร์ทำมายยยย อิอิ

[Mistressvag]

บี๋เป็นผู้หญิงที่ไม่โชคดีเหมือนผู้ชายอย่างต้น-ผู้ชายที่พอมีเรี่ยวแรงต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งเสรีที่จะไม่ทำในสิ่งที่ตนไม่ต้องการ
และไม่ได้เห็นชีวิตเป็นเรื่องสนุกเสียจนทำอะไรก็ได้เหมือนโอ
บี๋ไม่โชคดีอย่างนั้น
"หนูเจอจนชินแล้วค่ะพี่"ใบหน้าที่แต่งสีจัดจนแลดูกร้านนั้นยิ้ม มันเหมือนหยัน-ผมอดคิดอย่างนั้นไม่ได้
"เจอแบบไหนบ้าง" ผมซักเธอต่อราวกับเป็นเจ้าสำนักทะเบียน S/M
บี๋ยิ้มอยู่ในความมืด
"มันก็มีหลายแบบน่ะพี่ บางคนก็ขอกันดีๆว่าอาจจะมีกัดมั่ง มีตบกันมั่ง ถ้าเป็นประเภทนี้หนูก็ไม่ว่าอะไรหรอก มันไม่เท่าไหร่แต่เคยมีรายนึง แก่แล้ว นั่นจับหนูมัดกับเตียง ถ้าแค่มัดหนูไม่เท่าไหร่หรอกแต่นี่จะเอาเข็มขัดมาฟาดหนูด้วย หนูเลยร้องลั่นตอนหลังก็เลยต้องปล่อยหนู"
เธอนิ่งไปสักพัก ก่อนจะบอกผมว่า
"พี่รู้มัยบางทีหนูก็อยากจะลองเอาเข็มขัดฟาดพวกนี้ดูเหมือนกันนะบางคนมันก็ชอบให้หนูข่วนเหมือนกัน พอหนูตะกุยเล็บลงไปนี่ ว่ากันจริงๆหนูก็ชอบอยู่เหมือนกันมันเหมือนได้ระบายอะไรบางอย่างออกไปบ้าง"
"แล้วทำไมถึงไม่ลองทำล่ะครับ"ผมหมายถึงการเอาเข็มขัดฟาดคู่นอน
"ไม่รู้สิ" เธอเขิน "มันเหือนกับว่เราเป็นแค่..." เธออยุดอยู่ครู่หนึ่ง "ไม่รู้แขกจะชอบหรือเปล่าจะไปกล้าทำได้ยังไง"
"เวลาคิดจะทำนี่มีความสุขมั้ย"
"ที่จริงหนูก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะพี่แต่หนูว่า..." เธอหยุดแล้วทำท่าเหมือนเหนียม "หนูว่าหนูก็ชอบอยู่เหมือนกันหนูเคยอยากทำเหมือนในหนัง คือ ได้หวดผู้ชายได้ใช้อำนาจกับผู้ชายที่หนูไม่ชอบ"
"หนูเป็นซาดิสต์หรือเปล่าพี่"
ผมชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะบอกเธอว่าผมไม่รู้
ผมไม่รู้จริงๆ ไม่ใช่เพราะผมไม่ได้เป็นจิตแพทย์แต่เพราะคนที่เป็น S/M หลายคนบอกผมว่า พวกเขาไม่ได้ใช้ S/M เพื่อแสดงความเกลียดแต่ใช้มันเพื่อแสดงความรักต่างหาก
"เออพี่"เธอพูดขึ้นมาอีกหลังจากคุยเรื่องอื่นกันไปได้พักใหญ่ "แต่บางทีหนูก็ให้มันเลียตีนหนูนะ เลียเลย บางคนมันก็ชอบจริงๆ นะยิ่งไอ้พวกญี่ปุ่นนะ บางคนก็เอาเบียร์ใส่รองเท้าหนูแล้วก็กิน เออ...ว่าจะเล่าให้พี่ฟังเกือบลืม" เธอร้อง "เพื่อนหนูโดนแขกบอกให้มันกินขี้กินเยี่ยวของแขก มันอ้วกแตก วิ่งหนีออกมาเลยมันบอกว่าถึงได้ทิปเป็นหมื่นมันก็ไม่เอาอีแบบนี้ยิ่งกว่าซาดิสต์อีกนะพี่"
บี๋เล่าเหมือนเป็นเรื่องสนุกสนานเล่าไปหัวเราะไป
ราวกับมั่นใจว่าเรื่องราวแบบเดียวกับเพื่อนจะไม่มีวันมาถึงตัวเธอ